Wednesday, March 05, 2008

รำลึกถึงพ่อ

ปิดเทอมใหญ่มาถึงแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ผู้เขียนชอบมาตลอดเมื่อปิดภาคเรียน และรู้สึกพอใจอย่างยิ่งต่อการแสวงหาความรู้ของตัวเอง และต่อความรู้ทั้งหลายที่ได้รับการปลูกฝังจากคณาจารย์ ซึ่งดำเนินขึ้นภายในประเทศมาจนถึงขณะนี้ โดยความรู้ที่เล่าเรียนเอื้อผลต่อการดำเนินชีวิต และภูมิใจต่อความรู้ทั้งหลายที่ได้รับจากคณาจารย์ ในการศึกษาจากสถาบันภายในประเทศ ผู้ปลูกฝังให้เห็นความหมายและความสำคัญต่อการสร้างองค์ความรู้ที่เชื่อมโยงกับตำแหน่งแห่งที่ของตน ผู้เขียนเอือมระอาต่อค่านิยมการให้ค่าเรื่องการจบการศึกษาจากสถาบันต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคใด ว่าเป็นสิ่งเหนือกว่า มีเกียรติสูงส่งกว่าสถาบันในประเทศ และไม่นิยมผู้ผ่านการศึกษาจากต่างประเทศที่ไม่เห็นคุณค่าอย่างแท้จริงของการศึกษา และดูหมิ่นผู้ศึกษาสถาบันในประเทศ หรือผู้ด้อยความสามารถเรื่องภาษาต่างประเทศเช่นภาษาอังกฤษ ผู้เขียนมีโอกาสไปศึกษาในประเทศที่ได้รับความนิยมสูงประเทศหนึ่งของผู้คนได้ หากต้องการทำเช่นนั้น แม้ต้องขวนขวายเรื่องทุนทรัพย์เป็นจำนวนมากถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสิน เนื่องจากมีญาติใกล้ชิดผู้มีหลักแหล่งอยู่ในประเทศนั้นมานานนับสิบๆ ปี ซึ่งถ้าผู้เขียนเห็นว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่อย่างเสียเหลือเกิน ก็ยอมตะเกียกตะกายทำสิ่งที่ว่าไปแล้ว
การไปเรียนต่อต่างประเทศอยู่ในความนึกคิดเรื่องการศึกษาของผู้เขียนมาตั้งแต่เรียนประถมอย่างไม่ใช่แค่เรื่องฝัน และผู้เขียนก็รับสภาพและปรับความคิดตัวเองได้อย่างไม่ป่วนประสาทในเวลาต่อมา ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเมื่อผู้เขียนเรียนจบมหาวิทยาลัยชั้นต้น นั่นคือสภาพการล้มละลาย จนแทบไม่มีบ้านจะอยู่ และคนที่ก่อเหตุก็คือญาติใกล้ชิดในครอบครัวผู้ได้รับการศึกษาอย่างดีจากสถาบันในประเทศ และมีโอกาสไปศึกษาต่อยังต่างประเทศที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ถึงขั้นมีรายได้จำนวนมากได้ในปัจจุบัน แต่คนผู้นี้ก็เลือกทางอันไร้สติ แย่ยิ่งกว่าคำว่าไม่ควร และทำลายโอกาสทางการศึกษาและอนาคตในการดำเนินชีวิตของผู้เขียนและน้องๆ ทรัพย์สมบัติพื้นฐานเรื่องที่อยู่ส่วนที่พึงได้รับถูกโกงไปอย่างเห็นๆ คาตา ส่งผลให้พวกเราต้องดิ้นรนเรื่องบ้าน รวมทั้งทำให้แม่ของผู้เขียนพบความลำบากในฐานะผู้ใช้หนี้ก้อนโตแทน การมีคุณวุฒิจากสถาบันต่างประเทศและการมีความรู้ภาษาต่างประเทศ จึงมิใช่สิ่งรับรองคุณธรรมจริยธรรมในระบอบความคิดของบุคคล และน่าสังเวชที่สุดที่ผู้เขียนเห็นตัวอย่างนี้จากคนที่นับว่าใกล้ชิดมากในครอบครัว สถานะของพ่อคือบุคคลที่ผู้เขียนนำมาเป็นตัวเปรียบได้อย่างชัดเจน พ่อมีสิ่งที่ไม่น่าพอใจอยู่ตามมุมมองของลูกอย่างผู้เขียน ที่ไม่เห็นด้วยต่อทุกสิ่งทุกอย่างกับพ่อแม่ แต่ผู้เขียนตระหนักได้ว่าพ่อย่อมไม่มีทางทำสิ่งที่เกิดขึ้นข้างต้น
พ่อของผู้เขียนคือคนที่เรียนจบจากสถาบันในประเทศ โดยเคยได้ทุนไปเรียนต่างประเทศในระดับบัณฑิตศึกษา และเลือกกลับมาเรียนในประเทศด้วยเหตุผลที่ฟังดูไม่ค่อยเข้าท่านักตามความคิดของผู้เขียน พ่อกลับมาเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหลักสูตรที่ประเทศไทย งานของพ่อสมควรรู้ภาษาอังกฤษ แต่สำหรับสถานที่ทำงานของพ่อซึ่งนับว่าอยู่ในแดนไกลปืนเที่ยง ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษ และดูไปแล้วน่าจะนับวันที่มีโอกาสพูดภาษาอังกฤษในหนึ่งปีรวมกันได้ไม่น่าจะเกินสิบวัน ของที่ระลึกชิ้นสำคัญจากพ่อที่ผู้เขียนได้ไว้คือดิกชันนารีขนาดพกพาซึ่งเก่ามากแล้ว มันคือของมีค่าที่สุดชิ้นหนึ่งในชีวิตผู้เขียน และของอีกชิ้นหนึ่งของพ่อที่ผู้เขียนสูญเสียไปอย่างน่าเสียดายมากคือไวโอลิน ที่ผู้เขียนและน้องไม่เคยมีโอกาสฟังพ่อเล่น ผู้เขียนเชื่อว่าพ่อไม่กังวลนักต่อการมีลูกมาก เพราะเห็นว่ามีหลักแหล่งเป็นมรดกให้ลูกๆ พักอาศัย ตั้งหลักในชีวิตได้ แม้ตัวเองจะเป็นอะไรไป หรือหมดปัญญาเลี้ยงดู พ่อเคยใช้ศักยภาพทางการงานช่วยแม่แก้ปัญหาสำคัญเรื่องการงานที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และพ่อคงไม่คิดว่าคนในครอบครัวที่ได้รับการศึกษาอย่างดี มีความรู้ มีศักยภาพในการดำรงชีวิต จะเป็นคนไร้คุณธรรมจริยธรรมได้ถึงขั้นทำให้ครอบครัววิบัติ แต่มันก็เป็นไปแล้วหลังจากพ่อตายไปแค่ไม่กี่ปี และเป็นบทเรียนที่เป็นมรดกให้ผู้เขียนนำมาประมวลเป็นหลักการดำเนินชีวิต ซึ่งถือเป็นมรดกที่มีค่า เห็นคาตาอยู่ในครอบครัว ถ้าหากตนเองไม่รู้จักคิดหรือมองเทียบกับสิ่งที่เห็น สิ่งที่เป็นไปในสังคม ผู้เขียนก็คิดว่าตนเองนั้นช่างดำเนินชีวิตมาแบบสูญเปล่าอย่างยิ่ง นอกจากนั้นแล้วก็ต้องนำสิ่งที่เห็นมาสอนตัวเองว่าไม่พึงสนับสนุนและยอมรับบุคคลเช่นนั้น สิ่งปลอบใจที่ดีสำหรับตัวผู้เขียนเวลามีเรื่องแบบนี้มาให้เซ็ง ก็คือการดื่มนมรสต่างๆ ย้อมใจ

ผู้เขียนมีความดันโลหิตสูงติดตัวมาตั้งแต่อายุ ๑๙ ปี ขณะนี้พบอาหารธรรมชาติเพื่อใช้ควบคุม

นับเป็นโชคดีที่ผู้เขียนได้รับการแนะนำจากเพื่อน โดยเพื่อนและครอบครัวซึ่งมีผู้เป็นโรคเบาหวานรับประทานอาหารธรรมชาติดังกล่าว อาหารธรรมชาตินี้ใช้ควบคุมความดันโลหิตสูง โรคที่ผู้เขียนไม่อาจขจัดไปได้ และยังมีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคร้ายแรงเช่นมะเร็ง รวมทั้งยังให้ประโยชน์เรื่องการบำรุงผิวพรรณ ทั้งนี้ อาหารธรรมชาติดังกล่าวมีที่มาและแหล่งผลิตในประเทศที่เชื่อถือได้อย่างยิ่ง โดยได้รับการรับรองทางการผลิต และจากการคำนวณราคาต่อหนึ่งหน่วย เมื่อเทียบกับค่าอาหารประจำวันแล้ว นับว่าเป็นราคาที่เป็นเหตุเป็นผล ไม่ถือว่าราคาสูง ผู้เขียนจึงขอเผยแพร่สิ่งนี้ไว้เพื่อผลดีต่อสุขภาพและชีวิตของท่านทั้งหลาย ในฐานะที่ผู้เขียนมีความดันโลหิตสูงเป็นโรคประจำตัว และในฐานะสมาชิกผู้มีสิทธิ์จำหน่ายอาหารธรรมชาตินี้ ขอเชิญท่านผู้สนใจ ทั้งท่านที่มีโรคเหล่านี้อยู่ หรือท่านที่ต้องการลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าว โปรดติดต่อขอทราบรายละเอียดจากผู้เขียนโดยตรงได้ทางอีเมล์ ที่อยู่ ggkino888@hotmail.com

ฟื้นฟู-ทบทวนภาษาเยอรมันเบื้องต้น (ครั้งที่ ๗)

เฉลยแบบฝึกหัดการบอกเวลา
ตัวอย่าง : Es ist halb drei. คำตอบคือ 2.30
- Es ist halb fu[..]nf. คำตอบคือ 4.30
- Es ist halb elf. 10.30
- Es ist halb zwei. 1.30
- Es ist halb vier. 3.30
- Es ist halb sechs. 5.30
- Es ist halb eins. 12.30 หรือ 00.30
ตัวอย่าง : 7.30 คำตอบคือ Es ist halb acht.
- 9.30 คำตอบคือ Es ist halb zehn.
- 6.30 Es ist halb sieben.
- 11.30 Es ist halb zwo[..]lf.
- 8.30 Es ist halb neun.
- 4.30 Es ist halb fu[..]nf.
- 12.30 Es ist halb eins.

การถาม-ตอบเกี่ยวกับวันและสถานที่เกิด
ถามวันเกิด - Wann sind Sie geboren? ความหมายคือ When were you born?
ตอบ – Ich bin am (Tag) (Monat) (Jahr) geboren.
หมายเหตุ
- am ย่อมาจาก an dem
- geboren เป็น past participle ความหมายคือ born
ถามสถานที่เกิด – Wo sind Sie geboren? Where were you born?
ตอบ - Ich bin in (Stadt [town]) geboren.
ถามวันและสถานที่เกิด – Wann und wo sind Sie geboren? When and where were you born?
ตอบ – Ich bin am (Tag) (Monat) (Jahr) in (Stadt) geboren.



ทบทวนการผันคำกริยา

mu[..]ssen ความหมายคือ to have to {intransitive}

INDICATIVE
Present
ich muss
du musst
er/sie/es muss
wir mu[..]ssen
ihr mu[..]sst
Sie/sie mu[..]ssen

PARTICIPLES
mu[..]ssend
gemusst